ผลกระทบทางด้านลบ
ความนิยมในการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่หลายทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบทางด้านลบต่อผู้ใช้ด้วยเช่นกัน
ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีการกำหนดกฎหมายเพื่อควบคุมและดูแลการกระทำความผิดด้านการใช้เทคโนโลยีหลายฉบับ
เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กำกับดูแลการใช้งานคอมพิวเตอร์พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์
พ.ศ.2537 กำกับดูแลการนำข้อมูล สารสนเทศ
และสิ่งประดิษฐ์ของผู้อื่นมาใช้
เทคโนโลยีสารสนเทศ
มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับมนุษย์เป็นอย่างมาก ดังนั้น เมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้
ย่อมเกิดผลกระทบทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ส่วนด้านลบคือทำให้เกิดมลพิษต่าง ๆ
มากมายหรือถ้าเทคโนโลยีเหล่านั้นทำงานผิดพลาดในระบบสำคัญ ๆ
อาจเป็นอันตรายกับชีวิตมนุษย์ได้
ผลกระทบนี้ย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตและการทำงานของมนุษย์หลาย
ๆ ด้านและต่อสถาบันที่ให้บริการสารสนเทศ
ผลกระทบทางด้านลบจากการใช้เทคโนโลยีที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดปัญหาต่าง
ๆ ดังนี้
1.เพิ่มช่องทางในการก่ออาชญากรรม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ ขึ้น เช่น
ปัญหาอาชญากรรม ตัวอย่างเช่น อาชญากรรมในรูปของการขโมยความลับ
การขโมยข้อมูลสารสนเทศ การให้บริการ สารสนเทศที่มีการหลอกลวง
รวมถึงการบ่อนทำลายข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ในระบบเครือข่าย เช่น
ไวรัสเครือข่ายการแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ ก่อให้เกิดการหลอกลวง
และมีผลเสียติดตามมาลักษณะของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ที่รู้จัก
กันดีได้แก่ แฮกเกอร์ (Hacker)
และแครกเกอร์ (Cracker) โดยเฉพาะแฮกเกอร์ คือ
ผู้ที่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลของหน่วยงานสำคัญๆ
โดยเจาะผ่านระบบรักษาความปลอดภัย แต่ไม่ทำลายข้อมูล
หรือหาประโยชน์จากการบุกรุกคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น แต่ก็ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่งที่ไม่พึงประสงค์
ส่วนแครกเกอร์ คือ ผู้ซึ่งกระทำการถอดระหัสผ่านข้อมูลต่างๆ
เพื่อให้สามารถนำเอาโปรแกรมหรือข้อมูลต่างๆ
มาใช้ใหม่ได้เป็นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์
เป็นการลักลอกหรือเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่ง
2.ลดปฏิสัมพันธ์ระหวา่งมนุษย์
การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร
ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว
การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมมีลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว
ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่า
มนุษยสัมพันธ์ของบุคคลจะน้อยลง สังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพากันมาก
อย่างไรก็ดีได้มีงานวิจัยคัดค้านและแสดงความคิดเห็นที่ว่าเทคโนโลยีได้ช่วยให้มนุษย์มีการติดต่อสื่อสารถึงกันมากขึ้นและความสัมพันธ์ดีขึ้น
3.เพิ่มความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น
ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า
ข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล
อันเนื่องมาจากเหตุอุบัติภัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลหายหมด
ย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง
4. มีการเผยแพร่วัฒนธรรมข้อมูลที่ไม่เหมาะสม
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด
การนำมาใช้ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ
ดังเช่นการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าวสารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม
เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย
การดำเนินการเช่นนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้ดำเนินการ
นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่งจดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ
จริยธรรมการใช้งานเครือข่ายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปลูกฝังอย่างมาก
5. เกิดโรคติดการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ
เกิดจากภาวะทางจิตของผู้ใช้ที่สามารถควบคุมการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศของตนเองได้
ผู้เป็นโรคติดต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกิดอาการคล้ายติดสารเสพติด กล่าวคือ
เมื่อไม่ได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกิดอาการหงุดหงิด ย้ำคิดย้ำทำ สมาธิสั้น
ซึ่งโรคติดการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมักพบกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและเกมประเภทต่าง
ๆ โดยเรียกชื่อตามลักษณะของเทคโนโลยีที่ผู้ใช้ติด เช่น โรคติดอินเทอร์เน็ต
โรคติดเกม
6. เกิดความเจ็บป่วยทางกาย
นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงาน
การศึกษา บันเทิง ฯลฯ การจ้องมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ
มีผลเสียต่อสายตาซึ่งทำให้สายตาผิดปกติ มีอาการแสบตา เวียนศรีษะ
นอกจากนั้นยังมีผลต่อสุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท เช่น โรคคลั่งอินเตอร์เน็ต
เป็นโรคที่เกิดขึ้นในคนรุ่นใหม่ลักษณะ คือ แยกตัวออกจากสังคมและมีโลกส่วนตัว
ไม่สนใจสภาพแวดล้อมก่อให้เกิดอาการป่วยทางจิตคลุ้มคลั่งสลับซึมเศร้า อีกโรคหนึ่ง
คือ โรคคลั่งช้อปปิ้งทางอินเตอร์เน็ต
โดยเฉพาะการเสนอสินค้าทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่า
พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีลูกค้าสนใจเข้าไปช้อปปิ้งดูสินค้าต่างๆ
ทวีความรุ่นแรงมากยิ่งขึ้นจนเป็นที่สนใจของจิตแพทย์
นอกจากนั้นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ก่อให้เกิดโรคอาร์เอสไอ ซึ่งมีอาการบาดเจ็บเนื่องจากการใช้แป้นพิมพ์เป็นเวลานานๆ
ทำให้เส้นประสาทรับความรู้สึกที่มือ และนิ้วเกิดบาดเจ็บขึ้นเมื่อใช้อวัยวะนั้นบ่อยครั้ง
เส้นประสาทรับความรู้สึกเกิดเสียหายไม่รับความรู้สึกหรือรับน้อยลง
7.เพิ่มค่าใช้จ่าย
แม้ปัจจุบันอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีราคาถูกกว่าในอดีต
แต่อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นเรื่อย ๆ
ทำให้ราคาของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายในการใช้งานเพิ่มขึ้นด้วย
เช่นการรับส่งข้อมูลด้วยสัญญาณโทรศัพท์แบบ 3G มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการรับส่งข้อมูลด้วยสัญญาณโทรศัพท์แบบไวไฟการรับและส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงจะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามอัตราความเร็วนั้น
แหล่งอ้างอิง : http://chadaadi.blogspot.com/2014/11/blog-post.html
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น