วันเสาร์ที่ 14 มีนาคม พ.ศ. 2563

ผลกระทบทางด้านลบ



¤¸¸.•´¯`•¸¸.•..>> ผลกระทบทางด้านลบ <<..•.¸¸•´¯`•.¸¸¤
 ผลกระทบทางด้านลบ

      ความนิยมในการใช้เทคโนโลยีอย่างแพร่หลายทำให้เกิดความเปลี่ยนแปลงและผลกระทบทางด้านลบต่อผู้ใช้ด้วยเช่นกัน ดังนั้นจะเห็นได้ว่ามีการกำหนดกฎหมายเพื่อควบคุมและดูแลการกระทำความผิดด้านการใช้เทคโนโลยีหลายฉบับ เช่น พระราชบัญญัติว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ พ.ศ. 2550 กำกับดูแลการใช้งานคอมพิวเตอร์พระราชบัญญัติลิขสิทธิ์ พ.ศ.2537 กำกับดูแลการนำข้อมูล สารสนเทศ และสิ่งประดิษฐ์ของผู้อื่นมาใช้
      เทคโนโลยีสารสนเทศ มีส่วนเกี่ยวข้องสัมพันธ์กับมนุษย์เป็นอย่างมาก ดังนั้น เมื่อนำเทคโนโลยีมาใช้ ย่อมเกิดผลกระทบทั้งในแง่บวกและแง่ลบ ส่วนด้านลบคือทำให้เกิดมลพิษต่าง ๆ มากมายหรือถ้าเทคโนโลยีเหล่านั้นทำงานผิดพลาดในระบบสำคัญ ๆ อาจเป็นอันตรายกับชีวิตมนุษย์ได้ ผลกระทบนี้ย่อมก่อให้เกิดการเปลี่ยนแปลงในการดำเนินชีวิตและการทำงานของมนุษย์หลาย ๆ ด้านและต่อสถาบันที่ให้บริการสารสนเทศ

ผลกระทบทางด้านลบจากการใช้เทคโนโลยีที่ไม่ถูกต้องทำให้เกิดปัญหาต่าง ๆ ดังนี้

1.เพิ่มช่องทางในการก่ออาชญากรรม ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีสารสนเทศ
ก่อให้เกิดปัญหาใหม่ๆ ขึ้น เช่น ปัญหาอาชญากรรม ตัวอย่างเช่น อาชญากรรมในรูปของการขโมยความลับ การขโมยข้อมูลสารสนเทศ การให้บริการ สารสนเทศที่มีการหลอกลวง รวมถึงการบ่อนทำลายข้อมูลที่มีอยู่ในเครื่องคอมพิวเตอร์ต่างๆ ในระบบเครือข่าย เช่น ไวรัสเครือข่ายการแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จ ก่อให้เกิดการหลอกลวง และมีผลเสียติดตามมาลักษณะของอาชญากรรมที่เกิดขึ้นจากฝีมือมนุษย์ที่รู้จัก กันดีได้แก่ แฮกเกอร์ (Hacker) และแครกเกอร์ (Cracker) โดยเฉพาะแฮกเกอร์ คือ ผู้ที่มีความรู้ทางคอมพิวเตอร์ และเครือข่ายสามารถเข้าถึงข้อมูลของหน่วยงานสำคัญๆ โดยเจาะผ่านระบบรักษาความปลอดภัย แต่ไม่ทำลายข้อมูล หรือหาประโยชน์จากการบุกรุกคอมพิวเตอร์ของผู้อื่น แต่ก็ถือได้ว่าเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่งที่ไม่พึงประสงค์ ส่วนแครกเกอร์ คือ ผู้ซึ่งกระทำการถอดระหัสผ่านข้อมูลต่างๆ เพื่อให้สามารถนำเอาโปรแกรมหรือข้อมูลต่างๆ มาใช้ใหม่ได้เป็นการกระทำละเมิดลิขสิทธิ์ เป็นการลักลอกหรือเป็นอาชญากรรมประเภทหนึ่ง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อาชญากรรมคอมพิวเตอร์


2.ลดปฏิสัมพันธ์ระหวา่งมนุษย์ 
การใช้คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์สื่อสาร ทำให้สามารถติดต่อสื่อสารกันได้โดยไม่ต้องเห็นตัว การใช้งานคอมพิวเตอร์หรือแม้แต่การเล่นเกมมีลักษณะการใช้งานเพียงคนเดียว ทำให้ความสัมพันธ์กับผู้อื่นลดลง ผลกระทบนี้ทำให้มีความเชื่อว่า มนุษยสัมพันธ์ของบุคคลจะน้อยลง สังคมใหม่จะเป็นสังคมที่ไม่ต้องพึ่งพากันมาก อย่างไรก็ดีได้มีงานวิจัยคัดค้านและแสดงความคิดเห็นที่ว่าเทคโนโลยีได้ช่วยให้มนุษย์มีการติดต่อสื่อสารถึงกันมากขึ้นและความสัมพันธ์ดีขึ้น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ลดปฏิสัมพันธ์


3.เพิ่มความเสี่ยงในการดำเนินธุรกิจ
 ธุรกิจในปัจจุบันจำเป็นต้องพึ่งพาอาศัยเทคโนโลยีสารสนเทศมากขึ้น ข้อมูลข่าวสารทั้งหมดของธุรกิจฝากไว้ในศูนย์ข้อมูล เช่น ข้อมูลลูกหนี้การค้า ข้อมูลสินค้าและบริการต่างๆ หากเกิดการสูญหายของข้อมูล อันเนื่องมาจากเหตุอุบัติภัย เช่น ไฟไหม้ น้ำท่วม หรือด้วยสาเหตุใดก็ตามที่ทำให้ข้อมูลหายหมด ย่อมทำให้เกิดผลกระทบต่อธุรกิจโดยตรง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ผลกระทบของเทคโนโลยี


4. มีการเผยแพร่วัฒนธรรมข้อมูลที่ไม่เหมาะสม 
คอมพิวเตอร์เป็นอุปกรณ์ที่ทำงานตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด การนำมาใช้ในทางใดจึงขึ้นอยู่กับผู้ใช้ จริยธรรมการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเรื่องสำคัญ ดังเช่นการใช้งานอินเทอร์เน็ตมีผู้สร้างโฮมเพจหรือสร้างข้อมูลข่าวสารในเรื่องภาพที่ไม่เหมาะสม เช่น ภาพอนาจาร หรือภาพที่ทำให้ผู้อื่นเสียหาย การดำเนินการเช่นนี้ย่อมขึ้นอยู่กับจริยธรรมของผู้ดำเนินการ นอกจากนี้ยังมีการปลอมแปลงระบบจดหมาย เพื่อส่งจดหมายถึงผู้อื่นโดยมีเจตนากระจายข่าวที่เป็นเท็จ จริยธรรมการใช้งานเครือข่ายเป็นเรื่องสำคัญที่ต้องปลูกฝังอย่างมาก

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ภาพไม่เหมาะสม ในคอม


5. เกิดโรคติดการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศ 
เกิดจากภาวะทางจิตของผู้ใช้ที่สามารถควบคุมการใช้งานเทคโนโลยีสารสนเทศของตนเองได้ ผู้เป็นโรคติดต่อการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกิดอาการคล้ายติดสารเสพติด กล่าวคือ เมื่อไม่ได้ใช้เทคโนโลยีสารสนเทศจะเกิดอาการหงุดหงิด ย้ำคิดย้ำทำ สมาธิสั้น ซึ่งโรคติดการใช้เทคโนโลยีสารสนเทศมักพบกับผู้ใช้งานอินเทอร์เน็ตและเกมประเภทต่าง ๆ โดยเรียกชื่อตามลักษณะของเทคโนโลยีที่ผู้ใช้ติด เช่น โรคติดอินเทอร์เน็ต โรคติดเกม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ติดคอม

            6. เกิดความเจ็บป่วยทางกาย 
          นับตั้งแต่คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทในการทำงาน การศึกษา บันเทิง ฯลฯ การจ้องมองคอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ มีผลเสียต่อสายตาซึ่งทำให้สายตาผิดปกติ มีอาการแสบตา เวียนศรีษะ นอกจากนั้นยังมีผลต่อสุขภาพจิต เกิดโรคทางจิตประสาท เช่น โรคคลั่งอินเตอร์เน็ต เป็นโรคที่เกิดขึ้นในคนรุ่นใหม่ลักษณะ คือ แยกตัวออกจากสังคมและมีโลกส่วนตัว ไม่สนใจสภาพแวดล้อมก่อให้เกิดอาการป่วยทางจิตคลุ้มคลั่งสลับซึมเศร้า อีกโรคหนึ่ง คือ โรคคลั่งช้อปปิ้งทางอินเตอร์เน็ต โดยเฉพาะการเสนอสินค้าทางหน้าจอคอมพิวเตอร์ผ่านอินเตอร์เน็ตที่เรียกว่า พาณิชย์อิเล็กทรอนิกส์ มีลูกค้าสนใจเข้าไปช้อปปิ้งดูสินค้าต่างๆ ทวีความรุ่นแรงมากยิ่งขึ้นจนเป็นที่สนใจของจิตแพทย์ นอกจากนั้นการใช้คอมพิวเตอร์เป็นเวลานานๆ ก่อให้เกิดโรคอาร์เอสไอ  ซึ่งมีอาการบาดเจ็บเนื่องจากการใช้แป้นพิมพ์เป็นเวลานานๆ ทำให้เส้นประสาทรับความรู้สึกที่มือ และนิ้วเกิดบาดเจ็บขึ้นเมื่อใช้อวัยวะนั้นบ่อยครั้ง เส้นประสาทรับความรู้สึกเกิดเสียหายไม่รับความรู้สึกหรือรับน้อยลง


ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ผลกระทบของเทคโนโลยี


7.เพิ่มค่าใช้จ่าย 
แม้ปัจจุบันอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศจะมีราคาถูกกว่าในอดีต แต่อุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศมีการพัฒนาประสิทธิภาพขึ้นเรื่อย ๆ ทำให้ราคาของอุปกรณ์เทคโนโลยีสารสนเทศสูงขึ้นและค่าใช้จ่ายในการใช้งานเพิ่มขึ้นด้วย เช่นการรับส่งข้อมูลด้วยสัญญาณโทรศัพท์แบบ 3G มีค่าใช้จ่ายสูงกว่าการรับส่งข้อมูลด้วยสัญญาณโทรศัพท์แบบไวไฟการรับและส่งข้อมูลด้วยความเร็วสูงจะมีค่าใช้จ่ายสูงขึ้นตามอัตราความเร็วนั้น

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เสียเงินจากเทคโโลียี



แหล่งอ้างอิง : http://chadaadi.blogspot.com/2014/11/blog-post.html

ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ





]|I{•------» ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ «------•}I|[

ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารสนเทศ

   การนำเทคโนโลยีสารนิเทศมาใช้กับสังคมสารนิเทศใน ปัจจุบันก่อให้เกิดการสื่อสารและการใช้ประโยชน์ จากสารนิเทศได้อย่างเต็มที่  และมีประสิทธิภาพ  ประโยชน์ของเทคโนโลยีสารนิเทศมีดังต่อไปนี้ คือ

            1. ช่วยให้ติดต่อสื่อสารระหว่างกันอย่างสะดวกรวดเร็ว โดยใช้โทรศัพท์  คอมพิวเตอร์หรือในรูปของ สิ่งพิมพ์ต่าง ๆ
            2. ช่วยในการจัดระบบข่าวสารจำนวนมหาศาล ซึ่งผลิตออกมาในแต่ละวัน
            3. ช่วยให้เก็บสารนิเทศไว้ในรูปที่สามารถเรียกใช้ได้ครั้งแล้วครั้งเล่าอย่างสะดวก
            4. ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสารนิเทศ เช่น ช่วยนักวิทยาศาสตร์ วิศวกร  ด้วยการช่วยคำนวณตัวเลขที่ยุ่งยาก ซับซ้อนซึ่งไม่สามารถทำให้สำเร็จได้ด้วยมือ
            5. ช่วยให้สามารถจัดระบบอัตโนมัติเพื่อการเก็บ เรียกใช้และประมวลผลสารนิเทศ
            6. สามารถจำลองแบบระบบการวางแผนและทำนาย เพื่อทดลองกับสิ่งที่ยังไม่เกิดขึ้น
            7. อำนวยความสะดวกในการเข้าถึงสารนิเทศดีกว่าสมัยก่อน ทำให้ผู้ใช้สารนิเทศมี ทางเลือกที่ดีกว่า มีประสิทธิภาพกว่า และสามารถแข่งขันกับผู้อื่นได้ดีกว่า
            8. ลดอุปสรรคเกี่ยวกับเวลาและระยะทางระหว่างประเทศ


  ในสังคมสารนิเทศปัจจุบัน กล่าวได้ว่า คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาท  ในชีวิตประจำวันของคนในสังคมมากยิ่งขึ้น บทบาทของคอมพิวเตอร์มีมากยิ่งขึ้นสำหรับผู้ที่ต้องการสารนิเทศ  และสำหรับผู้ที่ไม่ต้องการสารนิเทศเพื่อใช้ประโยชน์ กับตนเองก็หลีกเลี่ยงการ ใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ด้านอื่น ๆ ไม่ได้บทบาทของคอมพิวเตอร์ที่มีต่อการใช้สารนิเทศในสังคมมีดังต่อไปนี้

ด้านการศึกษา

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การศึกษา


              การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการศึกษา แบ่งได้เป็น 2 ประเภท คือ ใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษา   และใช้เป็นเครื่องมือในการสอน  การใช้เป็นเครื่องมือในการศึกษาเกี่ยวข้องกับการบริหารการศึกษา ซึ่งผู้บริหารการศึกษา จำเป็นต้องทราบสารนิเทศต่าง ๆ ทางด้าน นักศึกษา ด้านแผนการเรียน ด้านบุคลากร ด้านการเงิน และด้านอาคารสถานที่และอุปกรณ์  ข้อมูลแต่ละด้านที่ได้จากคอมพิวเตอร์ ผู้บริหารการศึกษาสามารถนำมาใช้ช่วย ในการตัดสินใจได้ การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อเป็นเครื่องมือในการสอน  เป็นการช่วยให้ครูใช้ความรู้ ความสามารถพิเศษให้เป็นประโยชน์แก่ระบบการศึกษาได้มากขึ้น  การนำคอมพิวเตอร์เข้า มามีส่วนช่วยในการสอน  และการศึกษามีประโยชน์ในเรื่องดังต่อไปนี้  คือ
1. เพื่อการสอนแบบตัวต่อตัว
2. เพื่อฝึกทักษะต่าง ๆ ในการเรียน
3. เพื่อการสาธิต
4. เพื่อการเล่นเกมและสถานการณ์จำลอง
5. เพื่อสอนงานด้านการเขียน
6. เพื่อการเก็บรวบรวมข้อมูลเกี่ยวกับการเรียนการสอน
7. เพื่อช่วยผู้เรียนที่มีปัญหาเฉพาะตัว

ด้านการแพทย์และสาธารณสุข

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การแพทย์


  คอมพิวเตอร์มีบทบาทอย่างสูงทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขคอมพิวเตอร์เป็นเครื่องมือที่ช่วยอำนวยความสะดวกอย่างยิ่งในด้านการแพทย์ เริ่มตั้งแต่ การรักษาพยาบาลทั่วๆไป โรงพยาบาลบางแห่งใช้คอมพิวเตอร์ในการทำทะเบียนคนไข้ตลอดจนการวินิจฉัย และรักษาโรคต่าง ๆ  
 จากการใช้ประโยชน์ของสารนิเทศที่ได้ จากเครื่องคอมพิวเตอร์การใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการแพทย์และสาธารณสุขอาจเกี่ยวข้องในด้านต่อไปนี้ คือ  ด้านการรักษาพยาบาลทั่วไป  ด้านการบริหารการแพทย์ ด้านห้องทดลอง ด้านตรวจวินิจฉัยโรค  และด้านการศึกษา และวิจัยทางการแพทย์ การใช้ข้อมูลจากคอมพิวเตอร์ด้านการแพทย์และสาธารณสุขที่สำคัญในปัจจุบันคือด้านวินิจฉัยโรคและด้านการศึกษาและวิจัยทางการแพทย์   นักวิทยาศาสตร์การแพทย์สามารถค้นคว้าข้อมูลทางการแพทย์เพิ่มเติมได้ตลอดเวลาเป็นการพัฒนาความก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์การแพทย์และการสาธารณสุขอย่างไม่หยุดยั้ง 
คอมพิวเตอร์มีบทบาทต่อการให้ข้อมูลเพื่อการวินิจฉัยโรคสำหรับทำการรักษาได้อย่างรวดเร็วและแม่นยำขึ้น   ในวงการแพทย์เริ่มรู้จักใช้เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์ที่ เรียกว่า  อีเอ็มไอสแกนเนอร์  (EMI Scanner) เมื่อปี พ.ศ. 2515 เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์เครื่องนี้ใช้ถ่ายภาพสมองมนุษย์เพื่อตรวจดูเนื้องอก  พยาธิเลือดออกในสมองและความผิดปกติอื่น ๆ ในสมอง ต่อมาได้พัฒนาให้ถ่ายภาพหน้าตัดได้ทั่วร่างกาย เรียกชื่อว่าซีเอที (CAT-Computerized Axial Tomographic Scanner) มีวิธีการฉายแสงเป็นจังหวะไปรอบ  ๆ ร่างกายของมนุษย์ที่ต้องการ ถ่ายเอกซเรย์และเครื่องรับแสงเอ็กซเรย์ที่อยู่ตรงข้ามจะเปลี่ยนแสงเอกซเรย์ให้เป็นสัญญาณไฟฟ้าไปเก็บไว้ในจานหรือแถบแม่เหล็กแล้ว นำสัญญาณไฟฟ้าเหล่านี้เข้าไปวิเคราะห์ในเครื่องคอมพิวเตอร์ ซึ่งเมื่อได้ผลลัพธ์ออกมาก็นำไปเก็บในส่วนความจำ และพิมพ์ภาพออกมาหรือแสดงเป็นภาพทางจอโทรทัศน์ เครื่องเอกซเรย์คอมพิวเตอร์จึงเป็นตัวอย่างของการใช้คอมพิวเตอร์ในการวินิจฉัยและรักษาโรค

ด้านอุตสาหกรรม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุตสาหกรรม

คอมพิวเตอร์มีส่วนช่วยพัฒนาความก้าวหน้าทางด้านอุตสาหกรรม โดยนักวิทยาศาสตร์ได้ประดิษฐ์หุ่นยนต์เพื่อใช้ในบ้านและหุ่นยนต์อุตสาหกรรม ทั้งนี้หุ่นยนต์จะเป็นอุปกรณ์ที่สร้างขึ้นเพื่อเลียนแบบการทำงานของอวัยวะ ส่วนบนของมนุษย์ประกอบด้วยระบบทางกลของหุ่นยนต์และระบบควบคุมหุ่นยนต์ ประกอบด้วยอุปกรณ์ควบคุมซึ่งควบคุมการทำงานของหุ่นยนต์โดยอัตโนมัติด้วยคอมพิวเตอร์ นับเป็นส่วนสำคัญที่สุดของหุ่นยนต์ ระบบควบคุมนี้ทำหน้าที่เป็นสมองเก็บข้อมูลสั่งหุ่นยนต์ให้ทำงานตรวจสอบและควบคุมรายละเอียดของการทำงานให้ถูกต้อง 
การประดิษฐ์หุ่นยนต์อุตสาหกรรมอำนวยประโยชน์ในการช่วยทำงานในอุตสาหกรรมที่สำคัญคืองานที่ต้องเสี่ยงภัยและเป็นอันตรายต่อสุขภาพ  เช่น โรงงานยา ฆ่าแมลง โรงงานสารเคมี  งานที่ต้องการความละเอียดถูกต้อง และรวดเร็ว เช่น โรงงาน ทำฟันเฟืองนาฬิกา โรงงานทำเลนส์กล้องถ่ายรูป  และงานที่ต้องทำซ้ำ ๆ ซาก ๆ  และ น่าเบื่อหน่าย  เช่น โรงงานประกอบรถยนต์ โรงงานประกอบวงจรเบ็ดเสร็จ หรือไอซี และโรงงานทำแบตเตอรี่ เป็นต้น การประดิษฐ์สิ่งของหรือผลิตภัณฑ์บางอย่าง ในโรงงานอุตสาหกรรม คอมพิวเตอร์เข้ามามีบทบาทอย่างสูงต่อการ ควบคุม การผลิตสินค้าโดยไม่ต้องใช้แรงงานคนมาก  เป็นการประหยัดแรงงาน  นอกจากด้านการผลิตสินค้าแล้ว คอมพิวเตอร์ยังมีส่วนช่วยต่อการจัดส่งสินค้าตามใบสั่งสินค้า การควบคุมวัสดุคงคลัง และการคิดราคาต้นทุนสินค้า เป็นต้น

ด้านเกษตรกรรม

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ เกษตรกรรม


            การนำคอมพิวเตอร์มาใช้ประโยชน์ในด้านเกษตรกรรม ได้แก่ การจัดทำระบบข้อมูลเพื่อการเกษตร ซึ่งอาจมีทั้งระดับท้องถิ่น ระดับชาติ และระดับนานาชาติสำหรับระดับนานาชาตินั้น  อาจจะเริ่มด้วยสำมะโนเกษตรนานาชาติ ซึ่งสถาบันการเกษตรระหว่างประเทศ (International Institute of Agriculture) ได้เริ่มต้นตั้งแต่ พ.ศ. 2473โดยมีประเทศต่าง  ๆ ร่วมเก็บข้อมูลรวม 46 ประเทศ ต่อมาองค์การอาหารและเกษตร(FAO)  ได้ดำเนินงานต่อในปี พ.ศ. 2493 และมีประเทศต่าง ๆ ร่วมโครงการเพิ่มเติมมากขึ้น  ทำให้ประเทศต่าง ๆ ทั่วโลกได้ข้อมูลเพื่อเกษตรกรรมทางด้านสำมะโนเกษตร    นอกจากนี้ยังใช้คอมพิวเตอร์ช่วยทำแบบจำลอง พยากรณ์ความต้องการพยากรณ์ผลผลิตด้านการเกษตร เป็นต้น

ด้านการเงินการธนาคาร

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ ธนาคาร


            การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการเงินและการธนาคาร เป็นการนำคอมพิวเตอร์มาช่วยในงานด้านการบัญชี และด้านการบริหาร  การฝากถอนเงิน  การรับจ่าย การโอนเงิน แบบอิเล็กทรอนิกส์  การหักบัญชีอัตโนมัติ ด้านสินเชื่อ ด้านแลกเปลี่ยนเงินตรา บริการข่าว สารการธนาคาร บริการฝากถอนเงินนอกเวลาและบริการอื่น ๆ การใช้คอมพิวเตอร์ด้านการเงินการธนาคารที่ประชาชนรู้จักและใช้กันอย่างแพร่หลาย  ได้แก่  บริการฝากถอนเงินนอกเวลา ซึ่งมีใช้กันทั้งในต่างประเทศและในประเทศไทย  ซึ่งเรียกชื่อว่า  บริการเงินด่วน  หรือบริการเอทีเอ็ม 
( Automatic Teller Machine - ATM ) ที่ธนาคารต่าง ๆ สามารถให้บริการเงินด่วนแก่ลูกค้าได้ ทำให้เกิดความสะดวกรวดเร็วต่อการใช้เงินในการดำเนินงานทางธุรกิจต่างๆได้

ด้านธุรกิจการบิน

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ หอควบคุมการบิน



             ธุรกิจสายการบินมีความจำเป็นต้องนำคอมพิวเตอร์มาใช้เพื่อให้สามารถให้บริการได้รวดเร็ว  เพื่อการแข่งขันกับสายการบินอื่น ๆ และเพื่อรักษาความปลอดภัยในการบินโดยช่วยตรวจสอบสภาพเครื่องและอุปกรณ์ได้ อย่างถูกต้องแน่นอนและสม่ำเสมอ ธุรกิจที่มีการนำคอมพิวเตอร์มาใช้ด้านการบิน  อาจแบ่งเป็น 3 ประเภท คือ ผู้โดยสาร สินค้าพัสดุภัณฑ์ และ บริการอื่นๆของสายการบิน ตัวอย่างที่เห็นได้ชัดเจน คือระบบบริการผู้โดยสาร อาจจะเริ่มด้วยระบบบันทึกตารางการบิน ซึ่งบันทึกและเปลี่ยนแปลงแก้ไขข้อมูลเที่ยวบิน เส้นทางบิน เวลาออกและเวลาถึง จำนวนที่นั่ง สารนิเทศด้านการบริการผู้โดยสารมีความสำคัญอย่างมาก  และจำเป็นต้องได้รับข้อมูลอย่างรวดเร็ว  โดยปราศจากปัญหาทางด้านเวลา  และสถานที่  รายการบินต่าง ๆ จึงได้แข่งขันในการสร้างฐานข้อมูล ทางด้านนี้ บางสายการบินได้รวมตัวกันเพื่อให้เกิดความคล่องตัวในการใช้สารนิเทศร่วมกัน

 ด้านกฎหมายและการปกครอง

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การปกครอง


ทางด้านกฎหมายและการปกครอง มีการใช้คอมพิวเตอร์แก้ปัญหาด้านกฎหมาย  คืองานระบบข้อมูลทางกฎหมายมีการนำสารนิเทศที่เกี่ยวข้องกับตัวบทกฎหมายทุกฉบับ รัฐธรรมนูญทุกฉบับ  กฎหมายอาญา กฎหมายแพ่ง พระราชบัญญัติ พระราชกำหนด 
พระราชกฤษฎีกา  กฎกระทรวงประกาศต่างๆและอื่น ๆ เข้าคอมพิวเตอร์ทั้งหมด หลังจากนั้นคอมพิวเตอร์จะช่วยในการค้นสารนิเทศทางด้านกฏหมายได้อย่างรวดเร็ว  ดังตัวอย่างในประเทศสหรัฐอเมริกา มีการใช้คอมพิวเตอร์ระบบแอสเปน (Aspen System Corporation) ซึ่งเป็นระบบข้อมูลทางด้านกฎหมายที่ใช้กันมากกว่า  50 แห่ง นักกฎหมายและผู้ที่เกี่ยวข้องจึงได้ประโยชน์ในการค้นสารนิเทศในเวลาอันรวดเร็ว   
โดยเฉพาะในการค้นข้อมูลเกี่ยวกับคดีต่าง ๆ ที่เคยเกิดขึ้นแล้ว เป็นต้น  แทนที่จะค้นจากหนังสือ ซึ่งต้องเสียเวลาเป็นอันมาการใช้คอมพิวเตอร์ทางด้านการปกครองส่วนใหญ่ใช้ในกิจกรรมการเลือกตั้งดัง เช่นในประเทศไทย เมื่อมีการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาล่าสุด มีการใช้คอมพิวเตอร์มาประมวลผลข้อมูลการเลือกตั้ง ทำให้ประชาชนได้ทราบผลการเลือกตั้งได้อย่างรวดเร็ว


ด้านการทหารและตำรวจ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ การทหาร

            มีการใช้คอมพิวเตอร์ด้านการทหารและตำรวจอย่างแพร่หลายในประเทศต่างๆ  ในประเทศสหรัฐอเมริกา การใช้คอมพิวเตอร์ในด้านการทหารได้เจริญก้าวหน้าไปมากกว่าประเทศอื่นใดในโลกแต่ผลงานด้านนี้มักจะเป็นผลงานชนิดลับสุดยอดต่าง ๆ เท่าที่พอจะทราบกัน  ได้แก่  การใช้คอมพิวเตอร์ในวงจรสื่อสารทหาร  ใช้ในการควบคุม ประสานงาน ด้านการท หารใช้แปลรหัสลับในงานจารกรรมระหว่างประเทศ ใช้ในการผลิตระเบิดนิวเคลียร์  ใช้ในการทำสงครามจิตวิทยา  ใช้ในการวิจัยเตรียมทำสงครามเชื้อโรค  ใช้ในการสร้างขีปนาวุธ    และใช้ในการส่งดาวเทียม จารกรรม  เป็นต้น กรมตำรวจ กระทรวง มหาดไทย มีศูนย์ประมวลข่าวสารกรมตำรวจ
มีคอมพิวเตอร์ ขนาดกลางใช้ทำทะเบียนปืน ทำทะเบียนประวัติอาชญากรรม ทำให้เกิดความสะดวกต่อการสืบสวนคดีต่าง ๆ 


ด้านอุตสาหกรรมการพิมพ์และธุรกิจอื่น ๆ

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ อุตสาหกรรมการพิมพ์


            บทบาทของคอมพิวเตอร์ต่อธุรกิจอุตสาหกรรมการพิมพ์ในปัจจุบันมีมาก หน่วยงานทางการพิมพ์  ตลอดจนสำนักข่าวใช้เครื่องคอมพิวเตอร์ในการจัดพิมพ์ต้นฉบับตรวจแก้ไข  จนกระทั่งจัดพิมพ์เป็นรูปเล่ม ทำให้การจัดทำหนังสือพิมพ์ วารสาร และหนังสือต่าง ๆดำเนินไปด้วยความรวดเร็ว และถึงมือผู้อ่านได้อย่างทันท่วงที อุตสาหกรรมการพิมพ์เป็นธุรกิจที่ทำรายได้ให้แก่ประเทศต่าง ๆ อยู่ในขณะนี้ และเป็นธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับสารนิเทศ มีรายงานว่ามีเจ้าหน้าที่คนงานในประเทศ สหรัฐอเมริกากว่า 50  ล้านคน ได้ใช้ประโยชน์จากการใช้คอมพิวเตอร์ ในการดำเนินงาน ทางธุรกิจ มีการใช้อุปกรณ์สื่อสารระบบสำนักงาน อัตโนมัติและเทคโนโลยีโทรคมนาคมอื่น ๆ ร่วมกับคอมพิวเตอร์ทำให้การดำเนินงานทาง ธุรกิจต่าง ๆ ดำเนินไปด้วยความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ ทำให้ธุรกิจต่างๆไม่มีปัญหาทางด้านระยะเวลาและสถานที่ต่อการติดต่อทางธุรกิจอีกต่อไป

ด้านวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี

ผลการค้นหารูปภาพสำหรับ วิทยาศาสตร์


            การใช้คอมพิวเตอร์เพื่อประโยชน์ทางด้านวิทยาศาสตร์มีมากในสถาบันการศึกษา ตลอดจนสถาบันวิจัยต่างๆมีการใช้คอมพิวเตอร์เพื่อการวิจัยทดลองทางด้านวิทยาศาสตร์  เช่น  การวิจัยในทางนิวเคลียร์ฟิสิกส์ ซึ่งเป็นวิชาว่าด้วยส่วนประกอบที่เล็กที่สุดของสสาร  การค้นคว้าทดลองทางวิทยาศาสตร์สาขาต่าง ๆ ทำให้เกิดการพัฒนาประเทศอย่างไม่หยุดยั้ง เช่น  ทางด้านวิศวกรรมศาสตร์มีการใช้คอมพิวเตอร์ ให้มีส่วนร่วมต่อการออกแบบโครงสร้าง ทางวิศวกรรมที่ยุ่งยากสลับซับซ้อน  ทำให้มีส่วนช่วยต่อการออกแบบทางด้านวิศวกรรมและสถาปัตยกรรมได้อย่างไม่มีขอบเขตจำกัด บทบาทของคอมพิวเตอร์ทางด้านวิทยาศาสตร์จึงมี ประโยชน์ต่อการพัฒนาข้อมูลสารนิเทศอย่างไม่หยุดยั้ง





เทคโนโลยีในอนาคต

↤↤↤↤↤ เทคโนโลยีในอนาคต ↦↦↦↦↦

เทคโนโลยีการส่องกล้อง 

(Gut probe in a pill)


การส่องกล้องในปัจจุบันนั้นค่อนข้างวุ่นวาย ซึ่งโดยปกติคุณหมอจะให้ส่องก็ต่อเมื่อมีความจำเป็นจริง ๆ เท่านั้น และที่สำคัญยังใช้ไม่ได้กับเด็กทารกหรือเด็กตัวเล็ก ๆ เพราะต้องวางยาสลบ
แต่มีโรคชนิดหนึ่งที่ต้องพึ่งพาการส่องกล้องหรือตรวจอย่างสม่ำเสมอนั้นคือ โรค EED (Environmental enteric dysfunction) เป็นโรคที่ทำให้ลำไส้อักเสบ ส่งผลให้ไม่สามารถดึงโภชนาการจากอาหารที่กินเข้าไปได้ ซึ่งโรคนี้พบมากในประเทศที่ยากจน
            แต่ EED นั้นสามารถลดอาการของความรุนแรงได้หากรู้ก่อน แต่การตรวจรักษาตามพื้นที่ห่างไกลที่เป็นหน่วยพยาบาลเล็ก ๆ ยังคงทำได้ยากอยู่มาก
Guillermo J. Tearney จาก Massachusetts General Hospital จึงได้คิดค้นและสร้างอุปกรณ์ทางการแพทย์ชนิดหนึ่ง ซึ่งมีขนาดเล็กมาก ๆ เท่ากับขนาดแคปซูลของยาสามารถกลืนเข้าไปได้เลย (แต่มีสาย) ซึ่งแคปซูลนี้ก็จะทำหน้าที่ส่องกล้อง และยังสามารถตัดชิ้นเนื้อออกมาเพื่อตรวจสอบต่อได้ด้วย
ทำให้การตรวจรักษาโรค EED นั้นสามารถทำได้ในพื้นที่ห่างไกลหรือหน่วยแพทย์เคลื่อนที่ได้ และมีราคาถูกขึ้น และแคปซูลจิ๋วนี้ก็ยังถูกพัฒนาต่อเพื่อให้ใช้ได้ในเด็กทารกอีกด้วย

เครื่องตรวจ ECG บนข้อมือคุณ 
(ECG on your wrist)


ECG คือเครื่องที่หมอใช้ตรวจว่าเรามีโอกาสเกิดโรคหัวใจ เกิดสโตรก หรือเปล่า ซึ่งเป็นการตรวจความผิดปกติของอัตราการเต้นของหัวใจ สามารถตรวจได้ที่คลินิกหรือโรงพยาบาล แต่คนที่ตรวจบ่อย ๆ ก็จะมีความเสี่ยงในโรคเหล่านี้ลดลง
แต่ตอนการตรวจ ECG สามารถทำได้ใน smart watches แล้ว และ FDA ก็ได้ให้การรับรองแล้วในปี 2017 อย่างแบรนด์ที่เราน่าจะรู้จักกันดีอย่าง Apple Watch เวอร์ชั่นล่าสุดก็มีฟังก์ชั่นนี้ แน่นอนในเรื่องความแม่นยำยังคงห่างกับที่เราตรวจตามโรงพยาบาลเพราะอุปกรณ์ที่โรงพยาบาลใช้กันอยู่มีเซ็นเซอร์ถึง 12 อัน แต่ใน Apple Watch นั้นมีเพียงอันเดียว
แต่มีสตาร์ทอัพแห่งหนึ่งที่ชื่อว่า AliveCor เพิ่งได้ไปพรีเซ้นต่อสมาคมโรคหัวใจแห่งสหรัฐอเมริกา ว่าตอนนี้เขาสามารถทำนาฬิกาที่มีเซ็นเซอร์สองอันและสามารถตรวจจับโรคหัวใจวายบางประเภทได้ ถ้าเกิดทำได้จริงอันนี้จะช่วยป้องกันโอกาสการเสียชีวิตจากโรคที่เกี่ยวกับหัวใจได้เยอะเลยทีเดียว และเราน่าจะเห็นอุปกรณ์นี้ถูกวางจำหน่ายในอีกไม่นาน

วัคซีนมะเร็งที่ไม่ทำลายเซลล์ที่ดี
 (Custom cancer vaccines)


เป็นที่รู้กันว่าการทำคีโม นั้นจะไปทำลายเซลล์ที่ดีด้วย ซึ่งทำให้เกิดผลกระทบข้างเคียงที่ตามมาหลายอย่าง ในปี 2003 ก็มีความก้าวหน้าที่ยิ่งใหญ่ทางการแพทย์ และ
วงการไบโอเทค ก็คือการที่เราสามารถทำแผนที่จีโนมมนุษย์ (human genome mapping) ในโครงการที่ชื่อว่า Human Genome Project  
สิ่งที่เกิดขึ้น ปีหลังจากนั้นก็คือนักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยสามารถที่จะลำดับ (sequence) เซลล์ที่เป็นเนื้อร้ายของมะเร็งได้ รวมถึงพบว่าหากเทียบกับเซลล์ที่สุขภาพดี จะเห็นได้ว่ามีเซลล์ที่แตกต่างกันเยอะมาก และทุกชิ้นของเนื้อร้ายของแต่ละคนก็จะแตกต่างกันด้วย
มีบริษัทแห่งหนึ่งในเยอรมันที่ชื่อ BioNTech บอกว่าเราสามารถทำวัคซีนเข้าไปสู้กับเนื้อร้ายเหล่านี้ได้ วิธีการคือให้ทีเซลล์ (เซลล์ภูมิคุ้มกัน) หาและทำลายเซลล์เนื้อร้ายนั้น
ในปี 2017 เดือนธันวาคม ก็มีการทดลองจริง และได้ผลการทดลองเป็นอย่างดี หากกระบวนการนี้ถูกนำมาใช้จริงได้เมื่อไหร่ ก็จะทำให้เราไม่ต้องทำลายเซลล์ที่ดีระหว่างการรักษา แต่ก็ยังมีข้อจำกัดที่เป็นเรื่องท้าทาย เพราะการรักษานั้นจะต้องใช้ตัวอย่างเนื้อร้ายจากของแต่ละคน และกระบวนการในการลำดับเซลล์ (sequence) นั้นยังมีราคาที่สูงอยู่มาก

ความชำนาญของหุ่นยนต์ 
(Robot dexterity)

ในตอนนี้หุ่นยนต์สามารถทำงานที่ซ้ำ ๆ ได้แม่นยำและรวดเร็วมาก (งานประเภทสายพานในโรงงาน) แต่ก็ยังไม่สามารถแก้ไขปัญหาต่าง ๆ ในการทำงานได้ด้วยตัวเอง อย่างเช่น หากมีคนไปขยับเขยื้อนสิ่งของที่หุ่นยนต์กำลังจับอยู่เพียงหนึ่งนิ้ว ก็อาจจะทำให้มันไม่สามารถทำงานต่อไปได้
คือหุ่นยนต์ยังไม่มีความสามารถในการลองผิดลองถูกด้วยตัวเอง (trial and error) แต่ในอนาคตหากเราสามารถทำเรื่องนี้ได้ เราอาจจะได้เห็นหุ่นยนต์สามารถทำงานที่ดูง่าย ๆ แต่ซับซ้อนอย่างการล้างจาน (ซับซ้อนสำหรับหุ่นยนต์) หรือแม้กระทั่งงานที่ต้องใส่ใจเป็นพิเศษอย่างการดูแลผู้ป่วย


พลังงานนิวเคลียร์แบบใหม่
 (New-wave nuclear power)



ตอนนี้พลังงานนิวเคลียร์ได้พัฒนาเครื่องปฏิกรณ์ แบบฟิซชั่น (Fission) มาถึงรุ่นที่ แล้ว ซึ่งน่าจะได้ใช้กันในปี 2020 ซึ่งจะเป็นแหล่งพลังงานที่ถูก และปลอดภัยกว่าเดิม
แต่ที่มนุษยชาติรอคอยคือเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ แบบฟิวชั่น (fusion – ปลอดภัยกว่า ของเสียน้อยกว่า) ซึ่งน่าจะได้ใช้ในปี 2030 ซึ่งเครื่องปฏิกรณ์นิวเคลียร์ ฟิวชั่น คงเป็นคำตอบเรื่องพลังงานสำหรับมนุษยชาติในอนาคต


การคาดการณ์การคลอดก่อนกำหนด 

(Predicting preemies)



การคลอดก่อนกำหนดเป็นเรื่องที่ค่อนข้างอันตรายและเป็นหนึ่งในสาเหตุหลักที่ทำให้เด็กมีโอกาสเสียชีวิตได้ หรือมีโอกาสที่จะทำให้เกิดปัญหาสุขภาพของเด็กได้ ที่ผ่านมากระบวนการที่จะคาดการณ์การคลอดก่อนกำหนดนั้นวุ่นวายมาก และมีราคาแพงแต่ตอนนี้นักวิทยาศาสตร์ได้ค้นพบวิธีการใหม่ที่ง่ายและราคาถูกลงมาก ด้วยการตรวจ DNA และ RNA ซึ่งราคาของเทคโนโลยีนจะอยู่ที่ประมาณ 10 เหรียญ


เนื้อสัตว์ที่เกิดการเพาะเลี้ยงเซลล์
 (The cow-free burger)


สหประชาชาติคาดการณ์กันว่าในปี 2050 จะมีประชากรโลกประมาณ 9.8 พันล้านคน และคนก็จะบริโภคเนื้อสัตว์เยอะขึ้น อาจจะเนื่องจากความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นและการเติบโตทางเศรษฐกิจที่มากขึ้น จะทำให้คนบริโภคเนื้อสัตว์มากขึ้น 70% จากที่เราบริโภคกันอยู่ในทุกวันนี้
แต่แม้ในอุตสาหกรรมการผลิตเนื้อสัตว์ที่มีประสิทธิภาพก็ยังส่งผลเสียต่อสิ่งแวดล้อมมากอยู่ดี อย่างเช่นโปรตีนที่มาจากสัตว์จะใช้น้ำมากกว่าพืช ถึง 4-25 เท่า ใช้พื้นที่มากกว่า 6-17 เท่า และใช้พลังงานจากฟอสซิลมากกว่า 6-20 เท่า การจะให้คนหยุดกินเนื้อคงจะเป็นไปได้ยาก
 ตอนนี้ก็เลยมีการทำ lab-grown ซึ่งแบ่งออกเป็น แบบ 1.) ทำมาจากกล้ามเนื้อของสัตว์จริง เวอร์ชั่น lab-grown รสชาติที่ได้ในตอนนี้ค่อนข้างใกล้เคียงของจริงมาก คาดว่าจะสามารถวางจำหน่ายได้ในปีหน้า แต่ประเด็นคือ lab-grown ก็ไม่ได้ดีต่อสิ่งแวดล้อมมากขึ้นเท่าไหร่นัก
กับอีกเวอร์ชั่นหนึ่งที่เป็นแบบ plant-based ทำมาจากโปรตีนถั่ว มันฝรั่ง หรือพืชที่มีโปรตีนอื่น ๆ และนำไปทำให้มีความใกล้เคียงกับเนื้อ ซึ่งแบบ plant-based นั้นส่งผลดีต่อสิ่งแวดล้อมมากกว่ามาก
อย่างในบริษัทอย่าง Beyond Meat (บิล เกตส์ ลงทุนในบริษัทนี้ด้วย) ที่ทำเนื้อสัตว์แบบ plant-based นั้นเริ่มขายแล้วในแคลิฟอร์เนีย ซึ่งมีจำหน่ายแล้วในซุปเปอร์มาร์เก็ตและร้านอาหารกว่า 30,000 แห่ง และขายไปแล้วมากกว่า 25 ล้านชิ้น

การจับคาร์บอนไดออกไซด์ออกจากอากาศ 
(Carbon dioxide catcher)


ในตอนนี้ทั่วโลกก็มีการลดการปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์เข้าสู่ชั้นบรรยากาศ แต่เราก็ยังทำเรื่องนี้กันได้ช้ามาก ๆ UN เองก็บอกว่าจะมีก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์อีก 100,000 ล้านตันถูกปล่อยเข้าไปในชั้นบรรยากาศในศตวรรษนี้ แล้วก็เป็นหนึ่งในปัญหาโลกร้อนที่เราต้องแก้ไขกันอยู่ในทุกวันนี้
แต่มีข่าวดีก็คือก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์นั้นสามารถถูกจับแยกออกมาได้ด้วยต้นทุนประมาณ 100 เหรียญ ต่อหนึ่งตัน แต่ประเด็นคือแยกออกมาแล้วเราจะทำอะไรต่อ เพราะต้นทุนในการทำลายก๊าซนี้นั้นสูงมาก
สตาร์ทอัพจากแคนาดาที่ชื่อว่า Carbon Engineering (บิล เกตส์ ลงทุนในสตาร์ทอัพนี้) กำลังพยายามทำการทดลองเพื่อที่จะนำก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์มาสังเคราะห์เป็นพลังงาน แต่อาจจะไม่สามารถช่วยลดได้มากนักเพราะที่สุดแล้วก๊าซก็จะถูกปล่อยกลับเข้าสู่ชั้นบรรยากาศอยู่ดี แต่บิล เกตส์ ก็มองว่า แม้ว่าเราจะยังไม่มีทางเลือกมากนักแต่เราก็ต้องลงมือทำอยู่ดี

สุขาที่ไม่มีท่อระบายน้ำ
 (Sanitation without sewers)


มีตัวเลขที่น่าสนใจออกมาว่าประชากรราว ใน ของโลก หรือประมาณ 2.3 พันล้านคน ไม่มีห้องดี ๆ ใช้ เนื่องจากข้อจำกัดด้านทรัพยากรต่าง ๆ และจากสาเหตุนี้เองทำให้คนจำนวนมากกินอาหารที่ปนเปื้อนของเสียจากมนุษย์ และทุกปีก็มีคนเสียชีวิตจากเรื่องนี้ประมาณเกือบ ล้านคน ตัว บิล เกตส์ เองก็มีส่วนร่วมในเรื่องนี้โดยเขาบอกว่า 
Toilet Challenge คือการทำยังไงก็ได้ให้เอาส้วมไปอยู่ในพื้นที่ที่ห่างไกล พื้นที่ที่เดินท่อไม่ได้ หรือยากจนมาก ๆ ซึ่งมีส้วมแบบใหม่ที่ออกแบบจาก มหาวิทยาลัยเซาท์ฟลอริดา ใช้เยื่อชนิดหนึ่ง (membrane) ซึ่งเล็กกว่าแบ็คทีเรียในการช่วยทำความสะอาดและกำจัดของเสีย
อีกอันเป็น Biomass Controls ใช้ความร้อนเพื่อเปลี่ยนของเสียให้สามารถนำไปใช้ทำปุ๋ยต่อได้ แต่ปัญหาคือแบบ Biomass Controls นั้นเหมาะกับหมู่บ้านขนาดใหญ่ที่ใช้กันวันละเป็นหมื่น ๆ คน ส่วนแบบ membrane ก็เหมาะกับใช้ขนาดเล็กมาก ๆ ทำให้ทั้งสองแบบยังไม่ตอบโจทย์ ตอนนี้ก็มีหลายคนที่ร่วมงานกับ บิล เกตส์
เพื่อพัฒนานวัตกรรมเกี่ยวกับสุขาแบบไร้ท่อ เพื่อให้ใช้ได้จริง ราคาถูก และสามารถใช้กันได้โดยทั่วไป ก็ต้องรอดูกันต่อไปว่าจะเป็นไรอย่างครับ

ผู้ช่วยเสียงอัฉริยะ 
(Smooth-talking AI assistants)


อันนี้มาแน่นอน ผู้เล่นรายหลักก็จะมี Google, Alibaba, Amazon 1-2 ปีนี้เราจะได้เห็นสินค้าที่สามารถใช้งาน ผู้ช่วย AI เหล่านี้ออกมาเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ ตอนนี้ Google assistants ก็มีเวอร์ชั่นอัพเกรดที่ชื่อว่า Google Duplex ที่สามารถทำงานได้เหมือนคนมากยิ่งขึ้น
ด้วยเทคโนโลยีที่ถูกพัฒนาก้าวหน้าไปอย่างมากทำให้ ผู้ช่วย AI นั้นเก่งมากขึ้นเยอะมาก จนสามารถที่จะจองร้านอาหาร ร้านทำผม ให้คุณได้แล้ว
แต่ปัญหาหลักของ AI assistants (ผู้ช่วย AI) คือ มันยังไม่สามารถเข้าใจบริบทของภาษามนุษย์ได้ทั้งหมด แต่ในอนาคตเราอาจจะได้เห็น AI assistants เป็นได้ตั้งแต่ พี่เลี้ยงเด็ก ครู หรือแม้เพื่อน ก็อาจจะเป็นไปได้

แหล่งอ้างอิง : https://missiontothemoon.co/10-technologies-of-the-future-world/